คาร์ล ฟรีดริช ไฮน์ริช ไรน์ฮาร์ท แชร์ (
เยอรมัน: Carl Friedrich Heinrich Reinhard Scheer) เป็นพลเรือเอกแห่ง
จักรวรรดิเยอรมัน เป็นผู้บังคับการกองเรือทะเลหลวง และเป็นผู้บัญชาการกรมบัญชาการสมรภูมินาวี
กรมบัญชาการสมรภูมินาวีในช่วง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งแชร์เข้าศึกษาที่โรงเรียนนายเรือจักรวรรดิใน ค.ศ. 1879 เขาเป็นนักเรียนระดับแถวหน้าของรุ่นและได้รับการติดยศเรือตรีใน ค.ศ. 1886 และมีความก้าวหน้าเรื่อยมาจนได้เป็นผู้บังคับการเรือลาดตระเวนและเรือประจัญบาน เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้นใน ค.ศ. 1915 แชร์มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมวดเรือที่ 2 ของกองเรือทะเลหลวง (Hochseeflotte) และต่อมาได้เป็นผู้บังคับหมวดเรือที่ 3 ซึ่งเป็นมีเรือรบทันสมัยและทรงอานุภาพที่สุดในกองทัพเรือจักรวรรดิ แชร์ได้เลื่อนยศเป็นพลเรือเอกในเดือนมกราคม ค.ศ. 1916 และได้เป็นผู้บังคับการกองเรือทะเลหลวง แชร์นำกองเรือเยอรมันเข้าร่วมใน
ยุทธนาวีที่จัตแลนด์ ระหว่าง 31 พฤษภาคม–1 มิถุนายน ค.ศ. 1916 ซึ่งเป็นหนึ่งในการรบทางทะเลที่ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์การทัพเรือ เขามีฉายาที่พวกทหารเรือตั้งให้ว่า "บุรุษหน้ากากเหล็ก"
[1]ภายหลังยุทธนาวีที่จัตแลนด์ แชร์เข้าร่วมโครงการพัฒนาสมรภูมิเรือดำน้ำไม่จำกัดขอบเขตเพื่อต่อต้านฝ่ายสัมพันธมิตร และแผนการก็ได้รับการอนุมัติจากองค์
ไคเซอร์ ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1918 แชร์ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการ
กรมบัญชาการสมรภูมินาวี (Seekriegsleitung) โดยมี
พลเรือเอก ฟ็อน ฮิพเพอร์ รับช่วงเป็นผู้บังคับการกองเรือทะเลหลวงคนใหม่
[2] พลเรือเอกแชร์ได้เข้าหารือกับ
จอมพลฮินเดินบวร์คและ
พลเอกลูเดินดอร์ฟ ทั้งสามเห็นว่าปฏิบัติการเรือดำน้ำเป็นทางเดียวที่จะกู้สถานการณ์ได้เนื่องจากกองทัพบกเยอรมันถูกทัพสัมพันธมิตรผลักดันจนถึงแนวรับแล้ว
[3] แชร์เสนอให้ต่อ
เรืออูใหม่ราว 376 ถึง 450 ลำให้เสร็จภายในไตรมาสสาม ค.ศ. 1919
[4]ตุลาคม ค.ศ. 1918 ท่ามกลางสถานการณ์ทัพที่แย่ลงเรื่อย ๆ แชร์และฮิพเพอได้ร่วมวางแผนในการทำยุทธนาวีครั้งสุดท้ายในการพิชิตกองเรือใหญ่ของราชนาวีอังกฤษ
[5] แผนการนี้ถูกสั่งการลงไปเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม ในคืนวันที่ 29 ตุลาคม เหล่าทหารเรือในท่าวิลเฮ็ลมส์ฮาเฟินไม่ยอมแล่นเรือออก เรือรบ 3 ลำในหมวดเรือที่สามไม่ยอมถอนสมอเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้าน เนื่องจากทหารเรือเหนื่อยล้าจากสงครามมากเกินพอแล้ว ท้ายที่สุด แผนยุทธนาวีนี้ต้องล้มเลิกไป
[6] พลเรือเอกแชร์เกษียณตัวเองจากกองทัพเรือในอีกสองสัปดาห์ต่อมาพลเรือเอกแชร์ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1928 ก่อนกำหนดการเดินทางไปอังกฤษเพื่อพบปะอริเก่า ผู้บังคับการฝ่ายอังกฤษในยุทธการยุทธนาวีที่จัตแลนด์ ร่างเขาถูกฝังไว้ที่เมือง
ไวมาร์ ต่อมามีการตั้งชื่อเรือลาดตระเวนหนักตามเขาว่า
เรือหุ้มเกราะพลเรือเอกแชร์